การตลาดออนไลน์ใครๆก็ทำ แต่ทำไมทำแล้วยอดขายยังเท่าเดิม?
วันนี้เราจะมาบอก 3 Steps กลยุทธ์เด็ด ที่จะทำให้ธุรกิจปัง ยอดขายพุ่ง
1.Buyer Persona: สร้างลูกค้า ระบุกลุ่มเป้าหมาย
รู้จักลูกค้าของคุณดีพอรึยัง? ถ้าคุณยังคิดว่า "ทุกคนคือลูกค้า" คุณพลาดแล้วหล่ะ
หากคุณยังทำการตลาดแบบไม่มีเป้าหมาย โฆษณาให้ตาย ยอดขายก็จะเท่าเดิม
ดังนั้นคุณควร ระบุลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (Buyer Persona) ใครที่จะมาซื้อสินค้า หรือใช้บริการของคุณ
เริ่มจากศึกษาลูกค้า โดยการระบุ Customer Demographic หรือข้อมูลประชากรลูกค้า ได้แก่ เพศ
อายุ
ที่อยู่
รายได้
ความสนใจ
งานอดิอเรก
ไลฟ์สไตล์
หลังจากนั้นให้ตั้งคำถามที่เกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น
อะไรคือสิ่งที่พวกเขาสนใจ?
ปัญหาของพวกเค้าคืออะไร?
อะไรคือสิ่งที่เขากำลังค้นหา?
ปกติแล้วเขาค้นหาข้อมูลจากแหล่งใด?
จากการศึกษาข้อมูลของลูกค้า จะทำให้เรารู้จักลูกค้ามากขึ้น ทำให้เข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ทำให้สามารถทำการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายง่ายขึ้น
ยิ่งรู้จักลูกค้ามากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้มากเท่านั้น ส่งผลให้โอกาสในการปิดการขายสูงขึ้นไปอีกด้วย
2. Tools & Goals: เลือกเครื่องมือที่ใช่ เพิ่มยอดขายให้ทะลุ
เมื่อเรารู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร ขึ้นตอนต่อไปคือการเลือกเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่เหมาะสมกับเป้าหมาย เครื่องมือการตลาดออนไลน์นั้นมีมากมาย โดยมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป
การตลาดผ่าน Social Media เช่น Facebook Instagram Twitter และ YouTube เป็นต้น การทำการตลาดผ่านช่องทางนี้มีข้อดีคือ ใช้งานง่าย ทุนในการเริ่มต้นน้อย สามารถระบุ Buyer Personaได้ละเอียด และมีรายงานการวัดผลหลังจากทำการโฆษณา นอกจากจะใช้ Social Media ในการปิดการขายแล้ว เรายังสามารถใช้เพื่อสร้าง Brand Awareness ให้ลูกค้ารู้จักสินค้า และแบรน์ของเรา
สำหรับเครื่องมือการตลาดสำหรับเว็บไซต์ที่คุณไม่ควรมองข้ามคือ Google Analytics ที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูล และสถิติการเข้าชมเว็บไซต์ ซึ่ง Google Analytic สามารถเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดว่า มีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ข้องคุณเท่าไหร่ ใช้เวลาอยู่ในเว็บคุณหน้าไหนบ้าง เวลาในการเยี่ยมชมกี่นาที กี่วินาที โดยจะแสดงผลแบบ Real-Time
เครื่องมือที่ดีจะต้องสามารถวัดผลได้ เพราะจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดเจนมากขึ้น
3. Chanel: ช่องทางการโปรโมท Content Marketing
เมื่อเราเลือกเครื่องมือที่จะใช้ในการทำการตลาดออนไลน์แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือคุณจะต้องกำหนดงบประมาณในการโฆษณา และจัดสรรงบประมาณลงในช่องทางโปรโมทต่างๆ ที่จะทำให้แคมเปญของคุณบรรลุจุดประสงค์
สิ่งสำคัญในการการโปรโมท Content Marketing คือคุณต้องรู้ว่า Content ของคุณคือประเภทใด Earned Media, Paid Media หรือ Own Media เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และเจาะกลุ่มเป้าหมาย ให้ได้
Earned Media คือ สื่อที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ เป็นสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงและบอกต่อแบรนด์คุณในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการ Like, Share, รีทวิต และคอมเม้นต์ในสื่อของคุณ "เป็นการตลาดที่ดีที่สุด" เพราะเป็นการตลาดแบบปากต่อปาก ที่นักการตลาดทั่วโลกต้องการให้เกิดขึ้นกับแบรนด์
Paid Media คือ สื่อที่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์ หรือออฟไลน์ ที่คุณจ่ายเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณา ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเราจะใช้ Paid Media เพื่อนำลูกค้ามายัง Own Media นั่นเอง เช่นเราทำการยิงโฆษณา Facebook เพื่อนำลูกค้ามายังWebsite หรือ Line เพื่อทำการปิดการขายเป็นต้น
Paid Media ได้แก่ Print Ads, TVC, Display Ads, Paid Search, Promoted Posts on Facebook และ Sponsored Tweets เป็นต้น
Own Media คือ สื่อที่คุณเป็นเจ้าของ ที่สร้างเพื่อสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น สื่อSocial Media หรือเว็บไซต์ ของแบรนด์คุณ เช่น Website, Mobile Apps, Blog และFacebook Fan Page เป็นต้น เมื่อลูกค้าเข้ามายัง Own Media แล้วพวกเขาจะพิจารณาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น Content ความสะดวกในการใช้งาน ดีไซต์ ธีม และรูปภาพภายในสื่อ ดังนั้นคุณจะต้องมั่นใจว่าสื่อของคุณนั้นสามารถดึงดูดลูกค้าได้ และต้องมีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งหมดนี้ก็คือ 3 Steps กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ที่จะช่วยให้ธุรกิจรุ่ง ยอดขายพุ่ง ลูกค้าเพิ่มขึ้นถล่มทลาย
สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้การตลาดออนไลน์ หรือใช้แล้วไม่ได้ผล ก็ลองนำกลยุทธ์ที่เรานำเสนอไปปรับใช้ดูได้นะคะ ยอดขายปังแน่นอนค่ะ
"ทุกคนไม่ใช่ลูกค้า ดังนั้นคุณต้องรู้ก่อนว่า ใครคือลูกค้าของคุณ"